Search This Blog

Monday, 2 July 2012

ประวัติบัตรเครดิต


ประวัติความเป็นมาของ บัตรเครดิต


ในยุคเริ่มแรกของสังคมมนุษย์นั้นยังเป็นยุคสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคัมที่มี การติดต่อสัมพันธ์กันในวงจำกัด ผู้คนในสังคมได้เป็นที่รู้จักกันมีความรู้และรับรู้ถึงสภาพฐานะทางสังคมและ ฐานทางเศรษฐกิจ บ้านใดมีความมั่นคงและร่ำรวยเป็นผู้ที่ได้รับการเชื่อถือในวงสังคมของผู้คน ในสังคมเดียวกัน การซื้อขายติดต่อกันก็เป็นไปอย่างง่ายๆเป็นการแลกเปลี่ยนตลอดจนมีการซื้อขาย ด้วยเงินตรา ซึ่งก็มีรัฐบาลเป็นผู้ประกันความเชื่อถือและความมั่นคง
ประเทศที่คิดค้นและนำบัตรเครดิตมาใช้เป็นประเทศแรกคือ ประเทศสหรัฐอเมริกาในปี ค.ศ.1914 โดยบริษัทเยอเนอรัลปิโตรเลียม คอร์เปเรชั่น ออฟแคลิฟอร์เนีย(ปัจจุบัน คือ บริษัท โมบิลออยส์จำกัด) ได้ออกบัตรเครดิตชนิด หนึ่งแก่พนักงานของบริษัทและลูกค้าของตนบางรายที่ได้รับเลือกสรรแล้วให้ใช้ บัตรดังกล่าวแทนเงินสดได้โดยสามารถนำไปใช้ชำระค่าน้ำมันเชื้อเพลิง แต่ใช้ได้เฉพาะในกลุ่มของตนเองเท่านั้น นำไปใช้กับบุคคลอื่นไม่ได้และบัตรเครดิตฉบับแรกนี้ มีลักษณะเป็นเหรียญโลหะ
ต่อมาในปี ค.ศ.1920 บริษัท ที่จำหน่ายน้ำมันก็ได้ออกบัตรในทำนองนี้ให้แก่ลูกค้าเพื่อเป็นการอำนวยความ สะดวก ต่อมาได้รับความนิยมมากขึ้นก็มีการขยายตัวของการออกบัตรเครดิต ไปใช้ซื้อสินค้าและบริการในสินค้าอื่นๆ มากขึ้น
ในปี ค.ศ.1950 นายแฟรงค์ แมคนามารา นักธุรกิจชาวนิวยอร์คได้รับประทานอาหารเย็นที่ภัตตาคารแห่งหนึ่ง แล้วลืมพกกระเป๋าเงินติดตัวไปจึงไม่มีเงินชำระค่าอาหาร ต้องโทรศัพท์ให้ภรรยานำเงินไปให้จากเหตุการณ์นี้เองทำให้เขาคิดว่าน่าจะมี บัตรพิเศษใช้แทนเงินได้ เขาจึงนำความคิดนี้ไปหารือกับนาย ราล์ฟ ชไนเดอร์ ทนายความที่ปรึกษาของเขาว่าวิธีการดังกล่าวจะมีความเป็นไปได้มากน้อยเพียงใด และ ในที่สุดทั้งสองจึงได้จัดตั้ง บริษัท ไดเนอร์สคลับ ออกบัตรเครดิตเพื่อใช้ในการซื้อสินค้าและบริการแทนการชำระด้วยเงิน ซึ่งคำว่า diners นั้นมาจากคำว่า dinner ที่แปลว่าอาหารเย็นนั้นเอง
บริษัทเอกชนอีกหลายบริษัทได้ออกบัตรเครดิต โดยในปีค.ศ1958 บริษัทอเมริกันเอ็กซ์เพรส จำกัด ได้ออกบัตรเครดิต อเมริกัน เอ็กซ์เพรส
ในปี ค.ศ.1959 ธนาคาร อเมริกันเอ็กซ์เพรสจำกัด ได้ออกบัตรเครดิต ชื่อ bank americaed ซึ่งต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น “VISA CARD”
ในปี ค.ศ.1966 กลุ่ม inter bank ในสหรัฐอเมริกาได้ออกบัตรเครดิต ชื่อ master-charge ซึ่งต่อมาเปลี่ยนเป็น “master casd”
ที่มา สุรเชษฐ ชีรวินิจ