Search This Blog

Wednesday 27 March 2013

บัตรเครดิตเกษตรกร



นโยบายเครดิตการ์ดให้เกษตรกร มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือในเรื่องการประกอบอาชีพและการดำรงชีพของเกษตรกร โดยบัตรเครดิตดังกล่าว สามารถนำไปซื้อพันธุ์ข้าวเปลือก ปุ๋ย ยาฆ่าแมลง อุปกรณ์ทางการเกษตร รวมทั้งการประกันราคาผลผลิต เมื่อเกษตรกรเก็บเกี่ยวผลผลิตก็สามารถนำเงินไปชำระได้ในภายหลัง

พิจารณาเบื้องต้น นโยบายนี้เป็นที่ใหม่สำหรับคนไทย แต่สำหรับเกษตรกรอินเดียมีบัตรเครดิตใช้มานานแล้ว โดยใช้ชื่อว่า “Kisan Credit Card” ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2541-2542 จุดประสงค์เพื่อช่วยเกษตรกรในการเข้าถึงแหล่งทุนระยะสั้น มีความยืดหยุ่นมากขึ้นในทางการเงิน ให้เกษตรกรสามารถ ซื้อวัสดุอุปกรณ์ ปัจจัยการผลิต ลงทุนในกิจกรรมทางการเกษตรที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น 

เงื่อนไขเกี่ยวกับการใช้ Kisan Credit Card เช่น เบิกได้ 15,000 รูปีย์หรือประมาณ 11,250 บาท และจาก ATM สามารถรูดได้ 25,000 รูปีย์ หรือประมาณ 18,750 บาท โดยบัตรมีอายุ 3 ปี สามารถได้รับเครดิตเพิ่มหรือลดหรือถูกยกเลิกได้ ขึ้นอยู่กับความสามารถของเกษตรกรในการหารายได้ และต้องชำระเงินคืนหลังขายผลผลิตได้ เป็นต้น

ปัจจุบันเกษตรกร 66.56 ล้านคนทั่วอินเดียมี Kisan Credit Card โดยในปี พ.ศ. 2548 ออกบัตรไป 8 ล้านใบ ปี พ.ศ. 2549 ออกบัตรไป 7.4 ล้านใบ 5 ปีหลัง (ตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2545-2550) ออกบัตรเฉลี่ยปีละ 9 ล้านใบ

หากพิจารณาถึงความสำเร็จของอินเดียต่อ Kisan Credit Card ถือว่าประสบความสำเร็จน่าพอใจ (ในแง่การช่วยเหลือเกษตรกร เพราะสามารถช่วยให้เกษตรกรเข้าถึงสินเชื่อได้ทันท่วงที ครอบคลุมเกษตรกรรายย่อย เกษตรกรที่ใช้ Kisan Credit Card ผลการดำเนินงานดีกว่าเกษตรกรที่ไม่ใช้ 

อย่างไรก็ตาม ปัญหาในเรื่องหนี้เสียเป็นปัญหาหลักของนโยบายดังกล่าว (Kallur, 2005) จากการศึกษาเกษตรกร 150 คน 7 หมู่บ้าน ปี 2547-2548 ในรัฐกรณาฏกะ (Karnataka) พบว่า อัตราการชำระหนี้อยู่ที่ร้อยละ 35 เท่านั้น

ซึ่งประเทศไทย โดยพรรคเพื่อไทย ก็ได้ออกนโยบาย บัตรเครดิตเกษตรกร ออกมาแล้ว โดย ธ.ก.ส เป็นผู้ดำเนินการ ประกาศความพร้อมออกบัตรสินเชื่อเกษตรกร แจกจ่ายให้เกษตรกร 2 ล้านรายพร้อมกันในเดือนพฤษภาคมนี้ โดยใช้งบประมาณดำเนินการ 2-3หมื่นล้านบาท ซึ่งในตอนนี้ยังเป็นช่วงเริ่มต้นโครงการอยู่ แล้วสักช่วงเวลาหนึ่งเราคงจะได้รู้กันว่า บัตรเครดิตเกษตรกร นี้จะช่วยให้ความเป็นอยู่ของของเกษตรกรดีขึ้นหรือไม่อย่างไร


Monday 4 March 2013

บัตรเครดิตพลังงาน



บัตรเครดิตพลังงาน เป็นโครงการสำหรับซื้อพลังงานเชื้อเพลิงในรูปแบบเอ็นจีวี (NGV) ในรูปแบบของบัตรเครดิตสำหรับรถโดยสารสาธารณะ ที่เกิดขึ้นในสมัยของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยเน้นการลดค่าใช้จ่ายในช่วงการปรับราคาก๊าซเอ็นจีวี
โครงการบัตรเครดิตพลังงาน จัดโดยความร่วมมือระหว่าง กระทรวงพลังงาน ปตท. และ ธนาคารกรุงไทย โดยในช่วงแรกเน้นกลุ่มรถแท็กซี่ รถตู้ร่วม ขสมก. และรถตุ๊กตุ๊ก และในอนาคตจะมีการสนับสนุนในส่วนของรถจักรยานยนต์รับจ้างในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

สิทธิประโยชน์ที่จะได้รับ

  • วงเงินเครดิต 3,000 บาท/คน/เดือน
  • ส่วนลดราคาขายปลีกก๊าซ NGV : 0.50-2.00 บาท/กก.
กลุ่มผู้ขับขี่รถยนต์สาธารณะ
  • รถแท็กซี่ NGV
  • รถตุ๊กตุ๊ก NGV
  • และรถตู้ร่วม ขสมก. NGV
เฉพาะสถานีบริการก๊าซ NGV ที่ร่วมโครงการในกรุงเทพฯ และปริมณฑล

เอกสารที่ใช้ในการสมัครบัตรเครดิตฯ
  • ใบสมัคร (รับใบสมัครได้ที่สถานีบริการ NGV ที่กำหนด)
  • ใบขับขี่รถยนต์สาธารณะพร้อมสำเนา
  • ใบอนุญาตขับรถสาธารณะ (ใบแสดงหน้ารถ) พร้อมสำเนา
  • บัตรประชาชน พร้อมสำเนา
  • รูปถ่าย หน้าตรง ไม่สวมแว่น ขนาด 1 นิ้ว 1 ใบ
  • หนังสือรับรองแสดงเป็นผู้ขับรถที่โครงการกำหนดไว้จาก สหกรณ์ / บริษัท / หจก. และสวนบุคคล
  • ที่อยู่ / เบอร์โทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้สะดวก
เอกสารที่ใช้ในการขอรับบัตรเติมก๊าซ NGV สำหรับเจ้าของรถฯ
  • สำเนาบัตรประชาชน
  • สำเนาทะเบียนรถ ประกอบด้วย
    • หน้าแสดง "รายการจดทะเบียน" (ที่เปลี่ยนเชื้อเพลิงเป็น CNG แล้ว)
    • หน้าแสดง "เจ้าของรถ"
    • หน้าแสดง "รายการเสียภาษี"
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร 02-315-7515

Wednesday 30 January 2013

วีซ่า มาสเตอร์ และ อเมริกันเอ็กเพรส ต่างกันอย่างไร


รูปจากอินเตอร์เนท


วิซ่า มาสเตอร์ และ อเมริกันเอ็กเพรส ต่างกันอย่างไร
ในโลกเรานี้ จริงๆ แล้วมี สถาบันทางการเงิน / ธนาคาร / บริษัท ผู้ออกบัตรเครดิต และ ชาร์จการ์ด อยู่มากเลยครับ แต่ในจำนวนที่มากมายนั้น เจ้าที่เป็นตัวกลางที่นิยมใช้ทั่วโลกมีอยู่ไม่กี่เจ้าครับ คือมี Visa International ผู้บริหารบัตรวีซ่า , MasterCard International ผู้บริหารบัตรมาสเตอร์ , American Express , Dinner Club

วีซ่ากับมาสเตอร์การ์ด จริงๆแล้ว ทั้งสองบริษัทนี้เป็นคู่แข่งทางการตลาดเหมือนกับ โลตัส กับ บิกซี หรือ โค้ก กับ เป็บซี่ ซึ่งบริษัททั้งสองนี้แข่งกันในด้านการตลาดเรื่องของร้านค้าที่รองรับการบริการ โดยในปัจจุบันทวีปเอซียจะมีคนใช้ วีซ่าการ์ด มากกว่ามาสเตอร์การ์ด เล็กน้อย แต่ว่าว่าในทวีปฝั่งยุโรป มาสเตอร์การ์ดจะมีมากกว่าครับ และเพราะเป็นคู่แข่งกันจึงมีฐานลูกค้าที่เหมือนกันจึงไปกดดันให้เจ้าของธนาคารให้ออกบัตรของบริษัทตนให้ทั้งคู่  หลายๆ ธนาคารจึงอนุมัติให้ลูกค้าไปทั้งสองใบเลย คือสมัครบัตรเครดิตครั้งนึงก็จะได้บัตรใช้ 2 ใบเลย ทั้งวีซ่าและมาสเตอร์การ์ด

American Express (AMEX) และ Dinner Club จะเป็นบัตรประเภทชาร์จการ์ด คือ เป็นประเภทจ่ายหมดในครั้งเดียวที่รอบบิลมาถึง ซึ่งมีข้อดีที่เหนือกว่า เครดิตการ์ดทั่วไปคือ ช่วยควบคุมค่าใช้จ่าย ของเราได้ (ต้องมีวินัยทางการเงินสูงเพราะผ่อนไม่ได้) และการใช้จ่ายผ่านบัตรนี้ยังรวมถึงการเดินทางแบบมีประกัน และส่วนลดจากการพักโรงแรมได้ด้วย ซึ่งไม่มีใน เครดิตการ์ด ปกติ ด้วย แต่ว่าฐานลูกค้าของ AMEX จะเน้นที่กลุ่มไฮโซมากกว่า เพราะว่าฐารของเงินเดือนที่สมัครบัตรนี้ได้จะค่อนข้างสูง และต้องเสียค่าใช้จ่ายรายปี สูงกว่า บัตร เครดิตการ์ด ทั่วไป

เลือกอันไหนดีล่ะ ถ้ายังลังเลเลือกไม่ถูกอีกล่ะก็ จะสรุปง่ายๆ คือ ถ้าคุณใช้จ่ายอยู่ที่ทวีปเอเซียเป็นหลัก ให้สมัครบัตร วีซ่าหรือมาสเตอร์การ์ดจะเป็นประโยชน์มากกว่า เพราะว่าทวีปเอซียโดยเฉพาะประเทศไทยร้านค้ามักไม่รับบัตร AMEX เพราะคิดค่าธรรมเีนียมแพงกว่าบัตรอื่นครับ แต่ถ้าอยู่อเมริกา ก็ใช้ได้ทั้งหมดเลยครับ ขึ้นอยู่กับความสะดวกแล้วครับ

Wednesday 9 January 2013

โอนเงินจากบัตรเครดิต



รูปจากอินเตอร์เนท

โอนเงินจากบัตรเครดิตได้มั้ยนะ
        สงสัยกันบ้างหรือเปล่า อยากจะเอาเงินที่เราเป็นหนี้ไปให้คนอื่นเนี่ยธนาคารจะยอมไหมนะ :) . ซึ่งจะได้หรือไม่ได้ก็ขึ้นอยู่กับสถาบันการเงินที่ออกบัตรเครดิตให้เราว่าเขามีบริการตรงนี้หรือเปล่า แต่
        โดยมากแล้วมักจะเป็นการโอนยอดเงินจากบัตรเครดิตเข้าสู่บัญชีของเจ้าของบัตรที่เป็นธนาคารเดียวกันมากกว่า เช่น สมัครบัตรเครดิตกับธนาคารไทยพาณิชย์ และทำการผูกบัญชีเงินฝากของธนาคารเข้าไปด้วย เพื่อสะดวกในการชำระหนี้(สามารถหักจากยอดบัญชีเงินฝากได้) และโอนเงินจากบัตรเครดิตเข้าบัญชีนี้ได้ด้วย โดยบางแบงค์อาจไม่คิดค่าธรรมเนียมการถอนวงเงินบัตรเครดิต 3% อีกต่างหาก เช่น ธนาคารไทยพาณิชย์ (ของเขาดีจริงๆ)  แต่อาจจะสามารถทำได้ในช่วงเวลาทำการเพราะต้องใช้เจ้าหน้าที่ในการดำเนินงานให้ (เสียเวลา 1 - 2 วันทำการ)
        หลังจากได้รับเงินโอนจารบัตรเครดิตแล้วเราก็สามารถโอนเงินจาก ATM หรือบัญชีธนาคารของเราไปที่บุคคลอื่นได้ตามต้องการแล้ว (ง่ายใช่ไหมล่ะ)
        อ่า แล้วถ้าผู้รับเงินอยู่ต่างประเทศจะโอนเงินทำงัยล่ะ ฮ่าๆ จะบอกทำไม่ได้ก็ยังงัยอยู่ มีทางออกให้อีกนิดหน่อยครับลองดูหัวข้อด้านล่างได้เลย



รูปจากอินเตอร์เนท

โอนเงินจากบัตรเครดิตเข้า Paypal
        เราสามารถโอนถ่ายเงินระหว่างบัตรเครดิต กับ Paypal ได้ง่าย เพียงแค่ต้องมีบัตรเครดิตก่อน แล้วจึงสมัคร Paypal
        โดย Paypal จะ สามารถ โอน เงินให้ คนอื่น สูง สุด 1000$ โดย Paypal จะเป็นตัวกลางในการ ดูดเงิน จาก บัตรคุณ ไปเข้า บัญชี Paypal ของคนอื่น ( คนที่เราจะโอนให้ต้อง สมัคร บัญชี กับ Paypal ด้วย )

        ผู้รับ เงิน สามารถ add bank ในบัญชี Paypal แล้ว สั่งให้เค้า ส่งเงินเข้า ธนาคาร ได้ โดยตรง
วิธีสมัคร และ add bank
http://ptc.icphysics.com/paypal_info.htm

* ด้วย 2 วิธีง่ายๆ นี้ ลองไปดูละกันครับ ว่าวิธีไหนเหมาะกับคุณที่สุด